นี่คือประสบการไนชีวิตจากคนถ่ายสารคดีของ National Geographic’s ที่ขั้วโลกไต้
*หมายเหตุ-บทความนี้แปลมาจากผรั่งทั้งหมด และเดี้ยวผมจะเขียนคำแปลไห้ที่ไต้รูป
เจ้าของบทความเดิมคือ Distractify
เอ้า!!!จะเริ่มล่ะนะ
หลายคนกล่าวว่านี่เป็นสัตว์นักล่าที่ชั่วร้าย โหดเหี้ยม น่ากลัว (เวอร์)แต่พวกเขาไม่เคยพบมันจริงๆ ครั้งแรกที่พบมัน ฉันจึงตกอยู่ในความหวาดกลัว ...
*นี่คือเหตุการที่ช่างภาพของ National Geographic’s ได้พบกับสัตว์ร้ายที่เชื่อกันว่าน่ากลัวที่สุดของ ขั้วโลกไต้
ฉันอยู่ไนน้ำ และกำลังกลัวว่า จะเกิดอะไรขึ้น ทำไห้ทั้งตัวฉันมันสั่นไปหมด
และเธอได้เข้ามาหาฉัน เธอได้เปิดปากจะงับกล้องฉัน หัวของเธอเหมือนหัวของหมี เพราะมันไหญ่มาก
เธอได้กัดกล้องของฉันเข้าไปไนปากเธอ เธอคายกล้องออก และสิ่งมหัสจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นหลังจากนั้น
เธอออกไปและไปหาเพนกวินมาไห้ฉัน เธอพยายามที่จะป้อนเพนกวินไห้แก่ฉัน
เธอพยายาม ที่จะป้อนฉันแต่ฉันไม่กินมัน ทำไห้เธอ งง เธอจึงพยายามทำมันต่อไป
จากนั้น เธออาจจะคิดได้ว่า ฉันไม่ไช่นักล่าสิ่งมีชีวิต นั่นทำไห้เธอดูตกไจหน่อยๆ
เธอจึงนำ เพนกวินที่ไม่มีชีวิตมาไห้ฉัน และพยายามสอนฉันเกี่ยวกับการกินเพนกวินไห้ฉัน
เธอนำเพนกกวินมาโยนไส่ไนกล้องฉัน ฉันคิดว่าเธอคิดว่ากล้องคือปากของฉัน
นี่คือความผันของช่างภาพทุกคน(รวมถึงคนธรรมดาด้วย)
และไม่เสียแรงเลยที่อุตส่าห์รอมา 4 วัน
ดังนั้นฉันจึงถ่ายรูปมันมันก็ต้อนรับฉันอย่างดี (และยังพยายามยัดเยียดเพนกวินไห้ฉันกิน)
ดูแลฉัน และยังไห้ถ่ายรูปโดยดีอีก
นี่คือประสบการณ์การทำงานที่ดีที่สุดไนชีวิตฉัน ไนฐานะช่างภาพของ
National Geographic
เราทั้งหมดคิดว่าสัตว์ในชนิดเดียวกันจะมีนิสัยเหมือนกันทั้งหมด แต่แท้จริงแล้วทุกตัวจะมีนิสัยไม่ซ้ำกันทั้งหมดเหมือนมนุษย์ สัตว์ทั้งหมดที่เราจัดเป็นนักล่านอกจาก นี้ยังมีความสามารถในการล่าแล้ว พวกเขายังมีความสามารถไนการ การบำรุง มีความเห็นอกเห็นใจและความรัก ในขณะที่แมวน้ำเสือดาว กำลังล่านกเพนกวินนั้นมันจำเป็นอย่างมากในชีวิตของพวกเขา และพวกเขายังมีจิตไจเหมือนมนุษย์ ดังนั้นเราไม่ควรที่จะดูพวกเขาเหมือนๆกันไปชะหมด....
(ถ้าหากหาเสือที่ไจดีไน แอฟริกา กว่าจะหาเจอเราคงต้องกลายเป็น ศพไปแล้วแน่ๆ)
(จากผุ้เขียนบล็อก-ช่ายๆๆ และอย่าคิดว่า ผู้ชายเหมือนกันหมด ถ้าคิดเช่นนั้นไห้ไปหา
ชายแก่ๆ หน้าตาทุเรศ ไม่หล่อ พิการ บลาๆๆๆๆ รับรอง รักคุณจนตาย)
ชอบไหม?หากชอบก็ขอไห้แชร์ผ่าน facebook ด้วย55555+
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น